ตลาดโทรคมนาคมใหม่ หรือ NEW TELCO MARKET กำลังเป็นประเด็นที่น่าสนใจ เนื่องจากผู้เล่นในกลุ่มโทรคมนาคมแบบดั้งเดิม อย่าง AIS, TRUE, DTAC และ NT กำลังต้องปรับตัวเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งรายได้กลับคืนมา จากกลุ่มผู้เล่นยุคใหม่ในรูปแบบแพลตฟอร์มดิจิทัล หรือ OTT (Over-the-Top) เช่น LINE, FACEBOOK, YOUTUBE, TIKTOK, NETFLIX, DISNEYPLUS, VIU ที่กำลังเอร็ดอร่อยกับชิ้นปลามันบนหลังของผู้เล่นกลุ่มเดิม
ในอดีตผู้ให้บริการโทรคมนาคมหรือค่ายมือถือ มีรายได้หลักจากค่าโทร และค่าส่งข้อความ แต่วันนี้รายได้ส่วนนี้ไปตกอยู่กับผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่าง Line, WECHAT, MESSENGER เป็นต้น จึงกลายเป็นว่าจากเดิมที่ค่ายมือถือแข่งขันกันเองในประเทศ ก็ต้องมีคู่แข่งหน้าใหม่ ๆ จากต่างประเทศเข้ามามากมายนับไม่ถ้วน แถมในอนาคตจะมีคู่แข่งรูปแบบใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามาอีก เช่น บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม อย่าง SPACEX และ STARLINK ซึ่งผู้เล่นรูปแบบใหม่เหล่านี้ อ้าแขนกอบโกยรายได้และกำไรเพียงอย่างเดียว ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจากต้นทุนโครงข่าย ภาษี และอื่น ๆ เหมือนกับที่ค่ายมือถือของไทยต้องจ่ายทุกอย่าง ไม่นับรายได้ที่ต้องเสียไปให้กับผู้เล่นแอบแฝงจากต่างประเทศเหล่านี้ด้วย เรียกว่ามีแต่เสียกับเสีย
ในจำนวนผู้เล่นยุคใหม่
Facebook ยังคงเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียรายใหญ่สุดของโลก ที่แม้วันนี้จำนวนผู้ใช้งานรายวันจะลดลง
แต่ผลประกอบการของ Meta เจ้าของ Facebook ก็ยังคงทำกำไรและรายได้เพิ่มขึ้น รวมถึงฐานผู้ใช้งานโดยรวมก็ยังแข็งแกร่ง
ผลการศึกษาของ
Facebook เมื่อปลายปี 2564 ระบุว่า ประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นผู้นำด้านการเติบโตของส่วนแบ่งธุรกิจค้าปลีกดิจิทัล
โดยเติบโตขึ้น 85% จากปีก่อนหน้า แซงหน้าจีน (5%) บราซิล (14%) และอินเดีย (10%) โดย 73% ของผู้บริโภคในประเทศไทยจะกลายเป็นผู้บริโภคดิจิทัล
ซึ่ง Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่โกยรายได้มากที่สุด
ครองเม็ดเงินมากถึง 1 ใน 3 ของเม็ดเงินลงทุนผ่านสื่อดิจิทัลทั้งหมด รองลงมาเป็นยูทูป (YouTube) 17% และโซเชียลอื่นๆ 9%
นี่เป็นแค่หนึ่งตัวอย่างของผู้เล่นบนแพลตฟอร์มดิจิทัลในตลาดโทรคมนาคมใหม่
หรือ
NEW TELCO MARKET ที่อยู่ในช่วงขาขึ้นของการทำกำไร เพราะมีช่องทางในการทำมาหากินมากมายบนแพลตฟอร์มดิจิทัล
ขณะที่ผู้เล่นโทรคมนาคมแบบดั้งเดิมของไทยที่เกี่ยวขาอยู่ในตลาดเดียวกัน กำลังต้องเผชิญกับภาวะถดถอยจากการถูกดิสรัปต์
และหากไม่หาทางปรับตัวเพื่อแก้เกม ให้มีกำลังในการลงทุนรูปแบบใหม่ ให้สามารถแข่งขันกับผู้เล่นระดับโลกเหล่านี้ได้
ก็ต้องถูกบีบให้ออกจากตลาดไปทีละราย ในที่สุดประเทศไทยอาจจะต้องสูญเสียผู้เล่นทั้งหมด
ซึ่งหมายถึงการสูญเสียรายได้ไปให้กับผู้เล่นต่างชาติ ที่มีกำลังมากกว่าในการเสนอบริการใหม่
ๆ ที่เราจำเป็นต้องถูกบังคับให้ใช้
อย่างไรก็ตาม ปัญหาวันนี้ไม่ได้อยู่ที่ผู้เล่นหน้าใหม่
ๆ จากต่างประเทศกลุ่มนี้โดยตรง แต่อยู่ที่หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแล
รวมถึงฝ่ายเกี่ยวข้องที่ต้องเปิดโลกทัศน์รับข้อมูลใหม่ ๆ มองให้เห็นปัญหาที่แท้จริง
และหาทางช่วยสนับสนุนหรืออำนวยความสะดวก รวมถึงออกมาตรการที่ทำให้ผู้เล่นของไทยที่กำลังเผชิญพายุฝน
สามารถยืนหยัดอยู่ต่อไปได้ พร้อมกับมีโอกาสสร้างรายได้หรือเสียค่าใช้จ่ายในทิศทางที่สมดุลกับผู้เล่นต่างชาติหรือผู้เล่นทุกรายในตลาด
เพื่อให้สามารถมีกำลังที่แข็งแรงพอที่จะแข่งขันกันได้อย่างเท่าเทียม ไม่ต้องล้มหายตายจากไปอย่างไม่ยุติธรรมเช่นทุกวันนี้
Comments
Post a Comment